กทท. ประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับ World Bank มุ่งประสานความร่วมมือ-ทบทวนรูปแบบการบริหารจัดการ ร่วมวางแนวทางการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในอนาคต

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) นำโดยศาสตราจารย์ รุธิร์ พนมยงค์ กรรมการ กทท. พร้อมด้วยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาร่างข้อเสนอเชิงนโยบายร่วมกับธนาคารโลก (World Bank) เพื่อประสานความร่วมมือทางวิชาการและทบทวนรูปแบบการบริหารจัดการ นำไปสู่การบริหารจัดการท่าเรือแหลมฉบังในอนาคต ในระหว่างวันที่ 10 – 11 มีนาคม 2568 โดยมี ดร.ชนินทร์ มโนภินิเวส Senior Transport Economic ตัวแทนจาก World Bank ผู้บริหาร กทท. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และพนักงาน กทท. ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ณ โรงแรม Oakwood Hotel & Residence Sriracha จังหวัดชลบุรี  และอาคารที่ทำการท่าเรือแหลมฉบัง
.
ศาสตราจารย์ รุธิร์ฯ กล่าวว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับธนาคารโลกในเรื่องของแนวทางและทิศทางการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังที่ในขณะนี้กำลังเดินหน้าเข้าสู่เฟส 3 ให้ก้าวเป็น World Class Port พร้อมทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งได้จัดทำไว้ตั้งแต่ปี 2549 ให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ในวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทุกภาคส่วนที่จะร่วมระดมความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะต่อแนวทางการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินของท่าเรือแหลมฉบัง สร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์สินของการท่าเรือฯ ในเชิงพาณิชย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร ชุมชน สังคม เพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันของธุรกิจการขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันและขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพ สอดรับกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของประเทศ มุ่งสู่การเป็นท่าเรือที่มีสมรรถนะสูงและเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคได้ในอนาคต”
.
ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า “นอกเหนือจากการบริหารจัดการพื้นที่ท่าเรือและพื้นที่หลังท่า การจัดการประชุมเพื่อทบทวนแผนแม่บทในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการระดมความคิดและประสบการณ์ในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับทิศทางการพัฒนานั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในพื้นที่ท่าเรือเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมพื้นที่ถึงชุมชนโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง กทท. จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาแนวทางการพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนด้วย โดยในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังเป็นหัวหน้าคณะทำงานศึกษาและจัดทำแผนแม่บท เพื่อวางแนวทางการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังอย่างเป็นระบบควบคู่ไปกับการบริหารจัดการร่วมกับชุมชน และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน”
.
ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ท่าเรือแหลมฉบังจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อก้าวทันโลกของการขนส่งสินค้า มุ่งเน้นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในวันนี้จึงนับเป็นความร่วมมือที่สำคัญอย่างยิ่งระหว่างผู้บริหาร พนักงาน ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนที่จะร่วมแบ่งปันมุมมองและข้อเสนอแนะ ผนวกกับข้อมูลทางวิชาการจากWorld Bank ประสบการณ์และตัวอย่างท่าเรือต้นแบบจากทั่วโลกมาสรุปเป็นแนวทางในการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในอนาคต ทั้งเรื่องการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การใช้เทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้ง Green Technology ทั้งนี้ เพื่อยกระดับศักยภาพของท่าเรือแหลมฉบังไปสู่มาตรฐานสากล”