กทท. เข้าร่วมการประชุมสัมมนาความร่วมมือไทย–จีน 50 ปี สนับสนุนการขนส่งยางพาราผ่านท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน-กวนเหล่ย
May 26, 2025 1:46 PM
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 การท่าเรือแห่งประเทศไทย นำโดยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. นายวีระยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการ กทท. สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ เข้าร่วมประชุมสัมมนาความร่วมมือไทย–จีน 50 ปีภายใต้หัวข้อ “บ้านพี่เมืองน้อง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยาง การค้า และการลงทุนชายแดน”ร่วมกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กงสุลพาณิชย์จีน การยางแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ สมาคมการค้าส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจหกประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ผู้แทนสมาคมการค้าและเครือข่ายเกษตรกร โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมฯ และมีผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย Mr. Sheng Lyu กงสุลฝ่ายพาณิชย์จากสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวมาลัย กรแก้วสมนึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความพร้อมทางการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายดิษฐเดช วัฒนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรม เดอะ ริเวอร์รีบายกะตะธานี จังหวัดเชียงราย พร้อมกันนี้คณะผู้แทนทั้งสองประเทศยังได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานการส่งออกสินค้าด้านการเกษตรผ่านชายแดนโดยการขนส่งทางเรือ ณ ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 อีกด้วย
การประชุมฯ ครั้งนี้เป็นไปเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจยางพาราระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้ร่วมกันเจรจาวางแนวทางการส่งออกผลผลิตยางพาราจากไทยไปจีนผ่านระบบโลจิสติกส์ชายแดนระหว่างท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนกับท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพในการลดต้นทุนการขนส่งและสนับสนุนการค้าสินค้ายางพาราไปยังโรงงานจีนตอนใต้ โดยได้ร่วมหารือเชิงนโยบายในหัวข้อต่างๆ อาทิ การร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานด้านยางพาราไทย–จีน-เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เพื่อผลักดันมาตรการลดภาษีนำเข้ายางพาราในจีนเป็นศูนย์ รวมทั้งการสนับสนุนแนวทางขนส่งยางพาราโดยใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นทางขนส่งหลัก และการขอใช้สิทธิภายใต้กรอบความร่วมมือ GMS (Greater Mekong Subregion) ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการค้า โลจิสติกส์ และการพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขงร่วมกัน







