การท่าเรือแห่งประเทศไทย | Port Authority of Thailand

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ ทลฉ.

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ ทลฉ.

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ ทลฉ.

          เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง และผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม 1 อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง
          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขอให้ท่าเรือแหลมฉบัง เร่งดำเนินการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ให้เป็นไปตามกรอบเวลา และต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลโครงการนี้ ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สอบถามความคืบหน้าโครงการท่าเรือสีขาวพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมทั้ง มอบนโยบายให้คณะทำงานฯ มุ่งเน้นให้พื้นที่รับผิดชอบของการท่าเรือฯ ปราศจากสินค้าผิดกฎหมายหรือยาเสพติด ทั้งการลักลอบนำเข้าภายในประเทศ ลักลอบส่งออกไปยังต่างประเทศ และขอให้ปราศจากการละเมิดกฎหมายจราจรทางบก และขอให้ช่วยกันลดปัญหาฝุ่นละออง pm 2.5 ไม่ให้เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด     ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ท่าเรือแหลมฉบัง มีการส่งเสริมและผลักดันการเป็นท่าเรือสีเขียว ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึง การทำงานภายใต้ระบบ Eco-efficiency ที่มิได้มุ่งเน้นแค่การแข่งขันทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้เร่งพัฒนาพื้นที่ 90 ไร่ สำหรับจอดรถบรรทุก (Truck Parking) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด สำหรับการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของท่าเรือแหลมฉบัง ครั้งนี้        รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง ได้ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของบริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด และเข้าเยี่ยมชมรถบรรทุกอัตโนมัติแบบไร้คนขับ (Autonomous Truck : AT) เข้ามาใช้งาน ซึ่งรถ AT เป็นรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้าทั้งหมด จึงไม่มีการปล่อยก๊าซ CO2 (ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) และช่วยลดมลภาวะทางเสียงได้เป็นอย่างดี อีกด้วย

Loading

Skip to content