กทท. เปิดบ้านต้อนรับแกนนำคนสร้างฝายในโครงการ “ฅน…เก็บน้ำให้แผ่นดิน” ร่วมกิจกรรมเรียนรู้ ศึกษาดูงาน เสริมสร้างความสัมพันธ์คนต้นน้ำ – ปลายน้ำอย่างยั่งยืน

ระหว่างวันที่ 9 – 11 กันยายน 2568 การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) นำโดยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. และเรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วย คณะทำงานโครงการ “ฅน…เก็บน้ำให้แผ่นดิน” ให้การต้อนรับคณะผู้นำชุมชนแกนนำคนสร้างฝาย ภายใต้โครงการ “ฅน…เก็บน้ำให้แผ่นดิน” เนื่องในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมชมกิจการและภารกิจด้านต่างๆ ของ กทท. รวมทั้งร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบรางวัล THAILAND MORAL AWARDS 2024 ที่ กทท. ได้รับจากโครงการดังกล่าว อันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศซึ่งเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจระหว่างประชาชนในพื้นที่สร้างฝายซึ่งเปรียบเสมือนคนต้นน้ำ และ กทท. ที่เปรียบเสมือนคนปลายน้ำที่ร่วมกันสร้างฝายเก็บน้ำ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังก่อให้เกิดความสามัคคีกลับคืนสู่คนในพื้นที่ อันเป็นการสืบสานศาสตร์พระราชาที่ว่า “การสร้างฝายได้มากกว่าน้ำ”
 
ในโอกาสนี้ คณะฯ ได้เข้าศึกษาดูงานและร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ การชมนิทรรศการศูนย์การเรียนรู้เชิงนิเวศนครเขื่อนขันธ์ และสะพานเขื่อนขันธ์มรรคาที่ กทท. ได้ดำเนินการปรับปรุงเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ เมื่อปี 2558 ณ คุ้งบางกะเจ้า อีกทั้งยังได้เข้าร่วมพิธีมอบเงินสนับสนุนให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ 11 แห่ง ภายใต้โครงการ “กทท. ส่งเสริมการศึกษาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 2” และเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานด้านการขนส่งสินค้าและระบบบริหารจัดการท่าเรือภายในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้เดินทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเยี่ยมชมและรับฟังบรรยายสรุปกิจการ โครงการพัฒนาต่าง ๆ รวมทั้งเยี่ยมชมหอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง ตลอดจนร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนและร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน ณ พื้นที่ป่าชายเลนชุมชนบ้านแหลมฉบัง
กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้คณะผู้นำชุมชนแกนนำคนสร้างฝายได้ร่วมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีกับ กทท. เพื่อก้าวไปสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยังได้เห็นบทบาทของ กทท. ที่นอกจากการบริหารจัดการท่าเรือแล้ว ยังมุ่งมั่นขับเคลื่อนกิจกรรมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อันสะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เพื่อสร้างรากฐานการพัฒนาที่มั่นคงและส่งต่อความยั่งยืนให้กับชุมชนและประเทศในระยะยาว